คงไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้แม้แต่น้อยว่า ในปัจจุบันประเทศไทยของเรากำลังจะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแบบเต็มภาคภูมิ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่คนไทยเราจะต้องรับรู้ว่าประเทศไทยจะก้าวขึ้นไปในทิศทางใด และอะไรคือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
คำว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หมายถึงการรวมตัวของกลุ่มประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศลาว ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศพม่า ประเทศบรูไน ประเทศกัมพูชา ประเทศเวียดนาม และประเทศฟิลลิปปินส์ โดยหลังจากปี 2558 เป็นต้นไปนั้น การทำธุรกิจและการจ้างงานระหว่างประเทศสมาชิกจะทำได้โดยง่ายดายยิ่งขึ้น นับว่าเป็นข้อดีที่ว่าคนไทยเราจะสามารถทำธุรกิจกับประเทศชาติสมาชิกทั่วภูมิภาคและยังเข้าำทำงานในประเทศสมาชิกได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น แต่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียนะครับ เพราะว่าโอกาสในการทำงานของเราก็อาจจะยากเย็นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างแน่นอน เพราะว่าชาวต่างชาติในกลุ่มอาเซียนเองก็จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยเรามากขึ้นหลายเท่าตัวเช่นกัน สิ่งที่คนไทยเราจะต้องถามกับตัวเองก็คือ เราพร้อมหรือเปล่าที่จะรับมือกันการแข่งขันที่สูงขึ้น
เป็นที่น่าแปลกใจว่าประเทศเราจะถูกมองว่าเป็นประเทศแห่ง "โอกาส" ในการได้ทำงานของประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะตั้งแต่ก่อนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเปิดนั้น ความต้องการในการ "เรียนภาษาไทย" ของประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านของเราก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นั่นหมายถึงบุคลพวกนี้กำลังเตรียมพร้อมที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดแรงงานกับคนไทย ต้องการที่จะได้รับโอกาสที่ลูกจ้างชาวไทยกำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน นั่นอาจเป็นเพราะว่าอัตราเงินเดือนในประเทศของเราค่อยข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านเกือบทุกประเทศ แถมความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมของเมืองไทยก็เป็นสิ่งล่อตาล่อใจชิ้นดี คำถามที่ผมอยากจะถามก็คือ เยาว์ชนไทยจะเตรียมรับมืออย่างไร หรือถ้ามิเช่นนั้น รับบาลไทยที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศจะเตรียมรับมืออย่างไร เพื่อไม่ให้คนไทยเสียโอกาสจากการแข่งขัน
นับว่าเป็นข้อดีที่อัตราการศึกษาของบ้านเรา (literacy rate) ยังคงอยู่ในอัตราที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศ นั่นอาจเป็นข้อได้เปรียบที่คนไทยกำลังได้รับ แต่ถึงกระนั้นคนไทยเราก็มิอาจจะหยุดการพัฒนาตัวเองเช่นเดียวกัน แต่นั่นก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องออกหลักสูตรและพัฒนาหลักสูตรการเรีอนการสอนให้มีความเอื้ออำนวยแก่เยาว์ชนชาวไทยให้มีความพร้อมต่อการเข้าแข่งขันในเวทีการแข่งขันที่สูงขึ้น เพราะหากมิเช่นนั้นแล้ว แม้ว่าเยาว์ชนไทยจะเรียนหนักหรือขยันขันแข็งสักเพียงไหน สักวันหนึ่งพวกเราก็ไม่มีโอกาสที่จะแข่งขันในเวทีเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างแน่นอน
บทบาทของประเทศไทย ที่จะแข่งขันกับชาติสมาชิกอื่นๆ ก็คงไม่เป็นที่โสภานัก
แต่ในทางกลับกัน โชคยังดีืี่ที่ประชาชนของประเทศไทยยังคงมีข้อได้เปรียบทางด้าน "โอกาสทางการศึกษา" ที่ดูเหมือนจะเหนือกว่าเมื่อเทียบกับประชากรส่วนใหญในประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากจะถามว่าเราจะยังคงสามารถประคับประคองความได้เปรียบของไทยต่อไปได้หรือไม่ แล้วบทบาทของคนไทยจะเป็นอย่างไร เราคงต้องจับตาดูกันแล้วหละครับ
บทความโดย: Administrator, Thailand Economic Forum, Bangkok.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น